นาทีนี้เชื่อว่าหลายๆ คนที่ทำงานมาซักพักถึงจุดที่อยากสร้างเนื้อสร้างตัวมีบ้านมีช่องเป็นของตัวเองคงจะเริ่มมองหาบ้านดีๆ ซักหลังนึงเอาไว้เป็นที่อยู่อาศัยของเราเองไม่ต้องเสียค่าเช้าแล้วเราไม่ได้อะไรจ่ายไปๆ ทุกเดือน บวกลบคุณหารดูปีๆ นึงก็มากโขอยู่หนา จริงมั๊ยล่ะเจ้าคะ ดังนั้นลงทุนเก็บเงินซื้อบ้านไปเลยจบไหนๆ ต้องจ่ายก็ขอจ่ายแบบที่ได้บ้านมาครอบครองก็แล้วกัน แต่สมัยนี้นั้นบ้านซักหลังนั้นช่างแพงกว่าทองคำ หากทำเลทองด้วยแล้วล่ะก็ไม่ต้องพูดถึงค่ะว่ากันไปยาวๆ ดอกเบี้ยก็ศึกษากันให้ดี แต่ยังมีอีกทางเลือกนึงที่น่าสนใจนั่นก็คือ บ้านมือสอง นั่นเองค่ะ หาทางเลือกนี้เป็นโจทย์นึงของคุณๆ แล้วล่ะก็ เชิญทางนี้จ้า หากคุณกำลังกังวลว่าถ้าจะเลือกซื้อบ้านมือสองซักหลังนึงจะต้องดูอะไรบ้าง ก็เชิญทางนี้เช่นกันจ้า เพราะวันนี้เรามีเรื่องราวของการเลือกซื้อบ้านมือสองมาฝากกัน
แน่นอนว่าบ้านมือสองต้องราคาประหยัดกว่าบ้านมือหนึ่ง เพราะผ่านการใช้งานมาก็ต้องมีหักค่าเสื่อมค่าชำรุดกันบ้าง แต่งงานนี้ก็ต้องดูกันดีๆ เลยทีเดียวเพราะหากตาร้ายก็จะเสียเอาเปล่าๆ อันดับแรกหาทำเลดีๆ ที่เราชอบ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่มาซัก 2 แห่งค่ะ ( เพื่อเอาไว้เปรียบเทียบบ้านซักสองหลัง หลังละแห่ง หากเลือกได้หลังใดหลังหนึ่งก็จะเป็นทำเลที่เราโอเคทั้งคู่) แล้วเจาะลงไปว่าที่แห่งนั้นมีบ้านมือสองพร้อมขายหรือไม่ เมื่อได้ข้อมูลเหล่านี้แล้ว เจอบ้านที่ประกาศขายในทำเลที่เราเลือกแล้ว สิ่งที่ต้องดูในตัวบ้าน มีดังนี้
1.) มีปลวกหรือไม่
เจ้าสัตว์ประหลาดตัวน้อยนี่ล่ะค่ะตัวดีทีเดียว เห็นตัวเล็กตัวน้อยแบบนี้อย่างเพิ่งคิดว่าไม่สำคัญและมองข้ามไปนะคะ เพราะหากบ้านที่อยู่อาศัยมานานแล้วมีปลวกขึ้นแล้ว และเราก็ไม่ได้สนใจมองข้ามความสำคัญไป เจ้าปลวกน้อยก็จะทำการกัดกินบ้านเราไปทั้งหลัง คราวนี้โอกาสผุพังก็ง่านขึ้นค่ะ สิ่งที่จะตามมาคือ ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบ้านนั่นเองค่ะ ดังนั้นแล้วหากบ้านนั้นไม่มีปลวกก็ดีไป แต่ถ้ามี ก็ต้องดูว่าปริมาณพอจะกำจัดได้หรือไม่ ถ้าได้ก็พิจารณาค่ะ แต่ถ้ามากันเยอะแยะจนยากจะเคลียร์ล่ะก็ Bye!!!!! หาหลังใหม่เถอะ เพราะค่ากำจัดปลวกและค่าซ่อมบ้านรวมกันแล้วถือว่าไม่คุ้มที่จะเอาบ้านหลังนั้นมาเป็นของเราค่ะ
ในกรณีที่บ้านไม่มีปลวกหรือมีไม่มากยังพอเยียวยาได้ เราสามารถดูไปถึงโครงสร้างของบ้านค่ะว่ามีการวางระบบท่อลงไปในดินเพื่อเดินยากำจัดปลวกหรือไม่ หากมีจะดีมาก หากไม่มีเราสามารถฉีดยากันปลวกลงในดินได้เลยค่ะ
2.) ระบบน้ำประปาเป็นอย่างไร
ปัญหาอีกอย่างนึงที่มักจะพบในการซื้อบ้านมือสองคือระบบน้ำประปาค่ะ ปัญหาก็คือมีการรั่วซึมตามจุดต่างๆ สิ่งที่ยากสำหรับเราในการตรวจสอบคือ ส่วนใหญ่จะเดินท่อใต้ดินค่ะ ซึ่งเราก็จะไม่รู้ว่ามีการรั่วซึมในจุดไหนหรือไม่ การเช็คที่ง่ายและตรวจสอบได้เบื้องต้นคือการดูบิลค่าน้ำย้อนหลังค่ะ ว่าเจ้าของเดิมมีกิจกรรมการใช้น้ำอย่างไร จ่ายค่าน้ำสมเหตุสมผลหรือไม่ และสอบถามได้จากเพื่อบ้านอีกช่องทางนึงค่ะ อาจจะดูเป็นการตรวจสอบที่หยาบหน่อยแต่ก็ดีกว่าไม่ตรวจสอบอะไรเลยค่ะ แน่นอนว่าหากมีความสมเหตุสมผลก็ถือว่า ณ จุดนี้ไม่มีปัญหา
3.) ฝ้าเพดาน
ฝ้าเพดานเป็นอีกจุดนึงที่ไม่ควรพลาดค่ะ เพราะจุดนี้ส่วนมากจะทำจากแผ่นยิปซัมซึ่งเป็นแหล่งอาหารของปลวก หากเป็นเช่นนั้นแล้วมีความเป็นไปได้ที่วันนึงฝ้าเพดานอาจจะถล่มลงมาก็เป็นได้ค่ะ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็ คุณๆ อาจจะต้องจัดงบชุดใหญ่ไฟกระพริบเพื่อทำการซ่อมฝ้าทั้งแผงเลยทีเดียวเชียวล่ะ
4.) พื้นบ้าน
พื้นบ้านส่วนใหญ่ที่เจอปัญหาจะเป็นพื้นที่ปูไม้ปาเกต์ค่ะ เนื่องจากว่าแลกเกอร์ที่ทาไว้เดิมนั้นเสื่อม หรือว่าหมดอายุการใช้งานไปแล้วหรือยัง ซึ่งหากเป็นอย่างนั้น เราอาจจะต้องจัดงบประมาณเข้ามาดูและนั่นคือ การขัดพื้นไม้ปาเกต์ ส่วนพื้นแบบอื่นๆ เช่น พื้นกระเบื้อง พื้นหินแกรนิต พื้นเหล่านี้จะไม่ค่อยมีปัญหาค่ะ
5.) ปัญหาพื้นทรุด
พื้นทรุด นำมาซึ่งปัญหาการทรุดตัวของบ้าน ซึ่งในการพิจารณาเราอาจจะต้องดูลึกลงไปถึงโครงสร้างอาคารค่ะ หากมีการทรุดตัวของดิน ย่อมทำให้คานหรือบ้านนั้นทรุดตัวในเวลาต่อมาก็เป็นได้ ดังนั้นหากมองจากพื้นที่ไกลๆ จากตัวบ้านแล้วบ้านยังอยู่ในทรงที่ดีก็เบาใจได้ค่ะ
6.) เพื่อนบ้าน
ข้อนี้เป็นข้อสุดท้ายที่มีความสำคัญมากๆ ค่ะ เพราะการซื้อบ้านนั้นเป็นเรื่องใหญ่ที่เราทำได้ครั้งเดียวเข้าอยู่และปักหลักเพียงครั้งเดียว คงไม่มีใครอยากย้ายบ้านบ่อยๆ เป็นแน่ค่ะ ดังนั้นแล้วเพื่อนบ้านที่ดีถือว่าเป็นเรื่องสำคัญในการอยู่อาศัยอย่างมีความสุขในระยะยาวค่ะ
ทั้งหมดนี้คือข้อมูลในการพิจารณาการซื้อบ้านในเบื้องต้น หลักๆ แล้วก็คือระบบสาธารณูปโภคภายในบ้านนั่นเองค่ะ หากทุกอย่างอยู่ในสภาพที่เรียบร้อยใช้งานได้ หรืออยู่ในสภาพที่อาจจะต้องซ่อมแซมหรือปรับปรุงอีกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ก็สามารถพิจารณาบ้านหลังนี้ได้เลยค่ะ